ต้นกำเนิด FTA

FTA สะท้อนแนวคิดสำคัญทางเศรษฐศาสตร์ที่ว่า “ประโยชน์จากการค้าระหว่างประเทศจะเกิดขึ้นสูงสุดเมื่อประเทศต่าง ๆ ผลิตสินค้าที่ตนมีต้นทุนในการผลิตต่ำที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ แล้วนำสินค้า เหล่านั้นมาค้าขายแลกเปลี่ยนกัน” ซึ่งในโลกแห่งความเป็นจริงประโยชน์สูงสุดดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นหากยังมีการเก็บภาษีขาเข้าและมีการใช้มาตรการกีดกันทางการค้าต่าง ๆ ซึ่งส่งผลบิดเบือนราคาที่แท้จริงของสินค้าและทำให้การค้าขายไม่เป็นไปอย่างเสรีและมีประสิทธิภาพ ดังจะเห็นได้ว่าหลายประเทศในปัจจุบันยังคงส่งออกสินค้าที่ตนมีต้นทุนในการผลิตสูงกว่าโดยเปรียบเทียบอยู่ เช่น สหรัฐฯ ส่งออกฝ้ายและน้ำตาล ในขณะที่สหภาพยุโรปส่งออกผลิตภัณฑ์นมทั้ง ๆ ที่ต้นทุนการผลิตสินค้าเหล่านี้ในสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปโดยเฉลี่ยสูงกว่าในประเทศกำลังพัฒนามากกว่า 10 เท่า ดังนั้น FTA จึงถูกนำมาใช้เพื่อลดการบิดเบือนด้านราคา อันเกิดจากภาษีศุลกากร ช่วยลดอุปสรรคการค้าที่ไม่ใช่ภาษี ส่งผลให้มีการค้าขายแลกเปลี่ยนกันอย่างเสรีมากขึ้นเพื่อให้บรรลุประโยชน์สูงสุดจากการค้าระหว่างประเทศ อย่างไรก็ดีนี่เป็นเพียงแนวคิดทางทฤษฎีซึ่งประเทศต่าง ๆ จะต้องนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และสภาพของแต่ละประเทศเพื่อให้การทำ FTA ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่คนส่วนใหญ่ของประเทศ